รีวิวเกม Absolver เกม Action Fighting สำหรับคอเกมสายหมัดมวยที่แท้ทรู

[★] [Review] Absolver เกม Action Fighting สำหรับคอเกมสายหมัดมวยที่แท้ทรู

author image by GM News | Review | 0 Comments | 25 ก.ย. 2017 | เปิดดู

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เกมแนว Martial Arts หรือแนวต่อสู้ที่ขายศิลปะเตะต่อยนั้นไม่ค่อยจะมีในตลาดนัก เกมสุดท้ายที่ขายศิลปะการต่อสู้หมัดมวยและดังระเบิดคงจะเป็น Sleeping Dogs และนั่นก็ดูเหมือนเล่น Batman Arkham เข้าไปอีก ถือได้ว่าเกมแนวนี้มีน้อยจริงๆ และนั่นคือสาเหตุว่าทำไม Absolver ถึงได้ดูพิเศษมากกว่าปกติ

ตัวเกม Absolver ได้รับการสนับสนุนโดย Devolver Digital ขอขอบคุณสำหรับตัวเกม มา ณ ที่นี้

Absolver was reviewed using a PC Key provided by Devolver Digital. Thank you and Best regards.




Absolver เป็นเกมแนว Action พัฒนาโดยทีมอินดี้หน้าใหม่ Sloclap และจัดจำหน่ายโดย Devolver Digital มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบการต่อสู้ที่ขายศิลปะการต่อสู้ และระบบออนไลน์แบบเดินไปไหนก็เจอกับผู้เล่นคนอื่นได้ และวัดฝีมือเป็นหลัก ผู้เล่นจะได้ออกไปตะลุยในดินแดนอันรกร้างกว้างใหญ่ ฝ่าฟันนักสู้นับสิบที่ต้องการขัดขวางผู้เล่น ปีนหอคอย Tower of Adal แล้วกลายเป็นหนึ่งใน Absolver ผู้ค้นพบให้ได้

เมื่อเกมเน้นที่ ระบบการต่อสู้ เราจึงต้องพูดถึงระบบการต่อสู้กันก่อนซึ่งค่อนข้างละเอียดพอสมควร ระบบการต่อสู้จะคล้ายๆ กับ Dark Souls ในแบบที่ว่าผู้เล่นต้องคอยบริหารค่าความเหนื่อยหรือ Stamina อยู่ตลอด เพราะถ้าหมดก็โจมตีไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็มีระบบ Stance การตั้งท่าก่อนโจมตีซึ่งจะมีถึงสี่มุมและแต่ละมุมจะมีท่าทางการโจมตีไม่เหมือนกัน ความรู้สึกรวมๆ แล้วจึงเหมือนเล่น Dark Souls ผสมกับ For Honor อะไรแบบนั้นกันเลย

ทั้งนี้ระบบการต่อสู้นี่ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้างเหมือนกัน หลักๆ เลยคือตัวเกมดีไซน์มาเพื่อจอยโดยเฉพาะ ท่าหลบ/บล็อค/ป้องกัน นั้นจำเป็นต้องใช้เมาส์ซึ่งทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง นี่เป็นปัญหาหลักและดูเหมือนว่าทีมพัฒนายังไม่คิดจะแก้ ใครคิดจะเล่นเตรียมจอยกันเอาไว้ให้ดี ไม่ก็ย้ายไปคอนโซลกันได้เลยเพราะไม่งั้นได้มีหัวร้อนกับระบบควบคุมประหลาดๆ นี้แน่นอน

แต่สิ่งที่ทำให้ Absolver แตกต่างจาก For Honor นั้นอยู่ที่ ระบบ Combat Deck เป็นระบบที่ผู้เล่นสามารถดีไซน์เรียงกระบวนท่าที่จะใช้ในแบบของตนเองได้ ซึ่งในเกมก็มีท่านับสิบให้เลือกใช้เลือกหา เป็นระบบเปิดอิสระที่ใครชอบความอิสระจะต้องติดใจ น่าเสียดายมันดันมาตายที่ว่าผู้เล่นจำเป็นต้องเรียนรู้กระบวนท่านั้นๆ ก่อน และทางเดียวที่จะเรียนรู้ได้ก็คือการออกไปสู้กับชาวบ้านเท่านั้น

ระหว่างต่อสู้กับศัตรูถ้าเราสามารถ ป้องกัน หลบ หรือสวนกลับศัตรู ที่ใช้กระบวนท่านั้นได้ เราก็จะค่อยๆ เรียนรู้กระบวนท่านั้นๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปลดล็อค ตัวเกมพยายามอยากจะให้ผู้เล่นได้รู้สึกว่าเหมือนตัวเราเรียนรู้ประสบการณ์ในการต่อสู้จริงๆ เหมือนเราค่อยๆ เรียนตัวเลขนับหนึ่งไปสอง หรือภาษาอังกฤษนับเอไปบี ทีนี้มันดันกลายเป็นดาบสองคม เพราะในขณะเดียวกันระบบที่ว่านี้ยังเปลี่ยนให้ Absolver กลายเป็นเกม Grind แบบสุดๆ อาทิ ถ้าเราอยากเรียนรู้ท่านั้นๆ เราจำเป็นที่จะต้องเล่นไปเรื่อยๆ ต่อสู้ไปเรื่อยๆ และภาวนาว่าศัตรูจะใช้ท่าที่เราต้องการให้เราได้หลบ ตรงนี้กินเวลาเยอะมหาศาลมากๆ และอาจทำให้คนที่ไม่ชอบเล่นอะไรซ้ำซากเกิดอาการเบื่อก่อนได้ใช้ท่าเจ๋งๆ กันเลยทีเดียว

ก่อนจะเดินเข้าไปในโลกของ Absolver ได้ ผู้เล่นจำเป็นต้องเลือกสไตล์การต่อสู้และหน้าตาตัวละครกันก่อน สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่การแต่งตัวตัวละครเพราะในส่วนนั้นตัวเลือกที่ให้มาก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ แต่สไตล์การต่อสู้นี่แหละที่จะเป็นตัวชี้ความแตกต่างของแนวทางในการเล่น Absolver ล่ะ

ในเกมมีสไตล์ให้เลือก 3 แบบให้เลือกด้วยกันคือ Forsaken สมดุลทั้งความเร็วและความแรง แต่แลกกับสกิลป้องกันที่ใช้แบบบล็อคทิศทาง เมื่อบล็อคได้ศัตรูจะสตั้นชั่วคราว เท่ก็จริง แต่เล่นยากเอาเรื่องและไม่เหมาะกับผู้เล่นใหม่อย่างยิ่ง, Kahlt สายถึกเน้นรอจังหวะตบกลับหนักๆ มากกว่าวิ่งไปบู๊ตบรัวๆ มีสกิล Absorb ซึ่งสามารถกันท่าอะไรก็ได้และฟื้นเลือดคืนเมื่อโดนโจมตี เล่นง่ายเหมาะกับผู้เล่นใหม่อย่างยิ่ง และสาย Windfall เน้นความว่องไวในการปล่อยกระบวนท่า มีสกิลหลบหลีกอย่างรวดเร็วทำให้ศัตรูมึนงง เหมาะกับทั้งผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเก่า ระบบสไตล์เหล่านี้คือเอกลักษณ์ที่ทำให้ตัวเกมผลักดันการเล่นออนไลน์มากขึ้นไปอีก

ด้วยความที่เป็นเกมเน้นระบบออนไลน์ ทำให้ตัวเกมไม่ค่อยมีคอนเทนต์สำหรับผู้ที่สนใจเล่นคนเดียวมากนัก โหมด PvE จะคล้ายๆ Dark Souls ในแง่ที่ว่าโลกของเกมนั้นจะเชื่อมต่อกันผ่านจุดศูนย์กลางจุดๆ เดียว ผู้เล่นสามารถเดินไปที่ไหนก่อนก็ได้ไม่มีผลต่อเลเวล มีมินิบอสให้ปราบตามทางทั้งหมด 6 คนและบอสใหญ่ 3 คน ผู้เล่นจำเป็นต้องออกปราบทั้งบอสและมินิบอสให้หมดจึงจะจบเกมได้ ซึ่งถ้าเล่นดีๆ เล่นเก่ง ไม่เกิน 4 ชั่วโมงก็น่าจะจบได้แล้ว คอนเทนต์ในส่วนนี้จึงไม่เยอะนัก และไม่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองหาเกมเล่นคนเดียวที่คล้าย Dark Souls ครับ เกมสั้นไม่คุ้มเงินแน่ เว้นเสียแต่จะเอนจอยกับระบบการต่อสู้

แต่ถ้าใครมองหาเกมต่อยกับชาวบ้านและคิดว่า Dark Souls ยุ่งยากเกินไป Absolver คือทางที่ใช่สำหรับคุณแน่นอน เพราะจริงๆ แล้ว แผนที่ภายในเกมนั้นถูกดีไซน์ให้เหมือนสนามต่อสู้ขนาดยักษ์ที่ๆ ผู้เล่นสามารถพบปะและต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ไหนก็ได้ มากกว่าจะมาเป็นสถานที่ให้ฝ่าตะลุย ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะออกไปช่วยคนอื่นไล่ต่อย AI  หรือจะกลายเป็นคนร้ายแล้วไล่ต่อยกวนประสาทคนอื่นแทน ทำได้หมดครับ องค์ประกอบนี้ตอบโจทย์คนที่ชอบเล่นออนไลน์มากๆ เลยทีเดียว

พูดถึงระบบหาของ ใช่แล้ว ระหว่างที่ผู้เล่นตะลุยไปในโลกของ Absolver นอกจากจะได้ค่าประสบการณ์ไว้เพิ่มความสามารถตัวละครแล้ว จะมีโอกาสที่ศัตรู AI จะดรอปเครื่องแต่งกายด้วย เครื่องแต่งกายเหล่านี้จะมีค่าสถานะแตกต่างกันไปและผู้เล่นก็ต้องออกต่อสู้หาทางพัฒนาตัวเองตลอดเวลา แม้ค่าที่เพิ่มจะไม่ได้เยอะแยะ แต่ด้วยกฏ ‘ดีกว่าไม่มีเลย’ เหมือน Dark Souls ก็เลยยังเป็นสิ่งสำคัญหากจะยังอยากเอาตัวรอดในโลก Absolver นี้ แถมเป็นตัวแรงบันดาลใจหลักสำหรับคนที่อยากช่วยเหลือผู้เล่นหน้าใหม่คนอื่นๆ ด้วย

ปิดท้ายกันด้วยองค์ประกอบเปลือกทั่วไป ซึ่ง Absolver สามารถทำได้อย่างน่าประทับใจสุดๆ ด้วยกราฟิคแนวการ์ตูนแต่ไม่ได้หวานแหววจ๋า กลายมาเป็นงานเด่นของเกมทำให้ Absolver ไม่เหมือนใคร รวมไปถึงอนิเมชั่นปลดปล่อยกระบวนท่าที่ลื่นไหลมาก ถ้าใช้หลักเกมอินดี้มาพิจารณา Absolver ถือว่าใหญ่พอเป็นเกม AAA ได้เลยทีเดียว การออกแบบเสียง ซาวน์แทรคประกอบเกม ทุกอย่างดีเยี่ยม ดีไซน์ได้ดีสุดๆ ความใส่ใจจากทีมพัฒนาเต็มร้อยในส่วนนี้จริงๆ

  • เกมนี้เหมาะกับ : ผู้ชื่นชอบ PvP โดยเฉพาะคนที่รัก Dark Souls หรือ For Honor และไม่ได้สนใจว่าคอนเทนต์ต่อย AI ในเกมจะมีน้อยแค่ไหน
  • เกมนี้อาจจะเหมาะกับ : ผู้ที่อยากได้เกมที่ระบบต่อสู้ดี ไม่เน้นกดคอมโบเหมือนเกมต่อสู้ 2D ทั่วไปแต่เน้นความไหลลื่นมากกว่า
  • เกมนี้ไม่เหมาะกับ : ผู้ที่อยากได้เนื้อเรื่อง อยากได้โลกที่ล้ำลึกน่าสนใจศึกษา และผู้ที่ไม่ชอบ Dark Souls หรือ For Honor หรือทั้งคู่

สรุป

ซื้อเลย รอลด รอลดหนักสุดๆ หรือไม่ซื้อเลยดี? คำตัดสินคือ ‘รอลด’ ครับ ตัดสินจากจำนวนคอนเทนต์รวมๆ ซึ่งเราคิดว่ายังไม่มากพอที่จะรีดชั่วโมงการเล่นได้มากไปกว่า 10-20 ชั่วโมงของการเล่นซ้ำๆ ไปมา ถึงแม้ผู้เล่นอาจจะสนุกกับระบบการต่อสู้ แต่เราไม่คิดว่ามันจะคุ้มถึงขนาดต้องซื้อในราคา 559 บาทครับ รอเหลือสัก 300 ถือว่าไม่เลวเลยจริงๆ ตัวเกมวางจำหน่ายแล้วทั้งบน PC, และ PS4 ครับผม

รีวิวเกม By GameWorld 

“The game world is our world.”

Tags: , , , , , , , , , , , ,

Advertisement




Advertisement




LIKE US