รีวิว Injustice 2 การกลับมาของเกมต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ | GameWorld

[★] [Review] Injustice 2 การกลับมาของเกมต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่!

author image by GM News | Review | 0 Comments | 28 พ.ค. 2017 | เปิดดู

การกลับมาของเกมต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ จากผู้สร้าง ‘Mortal Kombat’ สู่การจับฮีโร่และวายร้ายนับสิบๆคนมาประจันหน้า ในจักรวาลพิเศษแยกจากคอมมิคที่ๆ Superman คือทรราช ใน ‘Injustice’ กับการผสมผสานรูปแบบเกมเพลย์ Combo String อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายที่เข้าใจง่าย และเข้ากันได้ดีกับจักรวาลฮีโร่ค่าย DC Comics และตอนนี้ก็ได้เวลาของภาคต่ออย่าง Injustice 2 กันแล้ว




ทีมพัฒนา : Netherrealm Studios
วันวางจำหน่าย : 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
แพลตฟอร์ม : PS4, Xbox One

Injustice 2 ถือว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างจะเข้าถึงง่ายมากสำหรับเกมแนวต่อสู้ แถมยังมีความยืดหยุ่นที่น่าเหลือเชื่อ ผู้เล่นใหม่สามารถทำคอมโบสวยๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น ส่วนผู้เล่นมือโปรก็สามารถต่อคอมโบกลางอากาศจากชุดนี้ไปอีกชุดนึงได้เช่นกันถ้าหากมือไวพอ เมื่อรวมกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้น และระบบ Gear อันเป็นระบบใหม่ที่ดูล้ำยุคแล้ว Injustice 2 ถือว่าเป็นภาคต่อที่สมชือคุ้มราคาจริงๆ

Absolute Justice

ในภาคนี้เนื้อหาของเกมก็จะเล่าต่อจากภาคแรก หลังจาก Superman โดนจับ ,Batman ที่เคยโดนประกาศว่าคือ Bruce Wayne จึงเลิกใส่หน้ากากแล้วหันมาใส่สูทช่วยโลกแทน เขาได้ฟื้นฟูทุกอย่างขึ้นมาใหม่ทั้ง รัฐบาล ประเทศ อาณานิคม ตึกรามบ้านช่อง ทุกอย่างดูจะไปได้ดี กระทั่งวันหนึ่งอยู่ๆ โลกก็ต้องสั่นสะเทือน กับการมาของวายร้ายชาวคูลูแสนน่ากลัว ‘Brainiac’ ผู้ฉลาดยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์ นั่นทำให้ Batman และเพื่อนพ้องต้องหาวิธีหยุดมันให้ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องระแวงกลุ่มที่ยังภักดีกับ Superman ด้วยว่าจะเข้าช่วยเหลือผู้นำของพวกเขาเมื่อไหร่ เป็นศึกสองทางที่ดูจะลำบากยากที่จะรับมือซะนี่กระไร

เมื่อพูดถึงการเดินเรื่องแล้ว Injustice 2 ค่อนข้างที่จะสูญเสียโมเมนตัมพอสมควร ปัญหาหลักๆ ก็คือการเลือกใช้ Cast ตัวละครที่ไม่เท่าเทียมกัน บางตัวละครโผล่มาแปปเดียวก็หมดบทบาท บางตัวละครก็ไม่รู้ว่าจะใส่มาเพื่ออะไร อีกปัญหานึงคือการเล่าเรื่องที่ไม่สม่ำเสมอ ตะกุกตะกักพยายามพาคนเล่นเข้าไปสู่จุดมุ่งหมายอย่างแสนสาหัส เป็นตัวฉุดเนื้อเรื่องของเกมไม่ได้ดีไปกว่าภาคแรกมากนัก

แต่หากพูดถึงภาพของเกมต่อสู้ในตลาดโดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องยังดีไหม? ผู้เขียนกล้าตอบว่ายังไงก็ดีกว่าทุกเกมต่อสู้ในรอบหลายปีนี้แน่นอน คัตซีนภายในเกมมีคุณภาพที่สูงมากๆ เสมือนกำลังดูหนังฮีโร่ยาว 5 ชั่วโมงที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่นแบบนอนสตอป แถมยังคงความเข้มข้นได้ไม่เปลี่ยนแปลง ตัวเรื่องสามารถชูจุดเด่นของตัวละครคอมมิคค่าย DC ได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ Brainiac ที่ร้ายสมชื่อและการรอคอย, การเขียนตัวละครที่ทำได้น่าสนใจมากๆ อาทิ Supergirl ที่เราคิดว่าจะน่าหงุดหงิด แต่กลับเป็นจุดที่ดีที่สุดของเนื้อเรื่องเสียอย่างงั้น และ Green Arrow ที่ต้องบอกว่า โอ้ยยยย พี่จะกวนประสาทไปไหนคร้าบ!

รวมๆ แล้วมันไม่ได้ดีเด่นหรือดุเดือดเท่าภาคแรก แต่ความเข้มข้นยังไงก็ห้าดาวอยู่ดี ยิ่งบวกด้วยการมาของระบบตัวเลือกก็ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องของเกมสนุกไปอีกขั้น นั่นหมายความว่าในบางช่วงของเกม ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นตัวละครไหน อาทิเช่น Black Canary กับ Green Arrow ต้องเผชิญกับ Grodd เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นเป็นตัวละครใด ซึ่งก็จะมีฉากคัตซีนและบทพูดที่แตกต่างกันไปตามตัวเลือกด้วย

Choose Your Side

ใน Injustice 2 จะมีตัวละครให้เราได้เลือกเล่นมากกว่า 28 ตัว (ไม่นับ DLC) เรียกได้ว่าเลือกตัวใช่สไตล์ที่ชอบได้เลย หากใครชอบสายสแปมปล่อยพลัง ยิงสอบไกลๆ? เลือก Deadshot ได้เลย แต่ถ้าอยากบุกแล้วปล่อยคอมโบรัวๆ เอาให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิดก็หยิบ The Flash ไป หรืออยากเน้นความรุนแรงชนิดที่ว่า รับประกันทุกหมัดเลือดต้องหาย? เรามี Bane ให้คุณสามารถจับคนมาทุ่มไปทุ่มมาได้ตามใจฉัน

ตัวละครเยอะแบบนี้ไม่ว่ายังไงก็คือเสียงบวกสำหรับเกมต่อสู้ และ Injustice 2 ก็สมควรได้รับคำชมตรงนี้ ตัวละครทุกคนมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันไปรอคอยให้เราได้เข้าไปค้นหาขุมพลังของพวกเขา ความหลากหลายแบบนี้แหละที่จะทำให้เกมมีอายุที่ยาวนาน อันเป็นสิ่งที่เกมต่อสู้ดูจะมีปัญหามากที่สุดแล้ว

ไม่พูดไม่ได้อีกข้อก็คือกราฟิคที่สวยงามมากๆ การแสดงสีหน้าท่าทางของตัวละคราสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับเกมปี 2017 แล้ว Injustice 2 เรียกได้ว่าล้ำหน้าเกมยุคเดียวกันไปไกลพอสมควรเลยทีเดียว นี่เกมต่อสู้ฮีโร่ต่อยกับฮีโร่ มีวายร้ายคั่นกลางนะเนี่ย ทำไมมันงดงามประณีตขนาดนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงเสียงเพลงในเกม เสียงพากษ์ตัวละครที่ทำได้ดีซะนึกว่ากำลังดูหนัง และเอฟเฟคต์ต่อยเตะที่แสนเร้าใจได้อารมณ์สุดๆ

Absolute Power

จบเนื้อเรื่องแล้วทำอะไรต่อ? Injustice 2 คือเกมต่อสู้เกมแรกในโลกเลยก็ว่าได้ ที่นำระบบจากเกมแนว RPG มาผสมผสาน พบกับระบบ Gear คือชิ้นส่วนเครื่องแต่งกายที่เราสามารถหาให้ตัวละครภายในเกมมาใส่ได้ และจะเพิ่มลด พลังโจมตี เลือด หรืออื่นๆ แตกต่างกันไป ซึ่งจะดรอปแบบสุ่มทุกครั้งที่เราเล่นจบแมทซ์ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวกับบอท หรือเข้า Multiverse ไปทำภารกิจ ทุกคนมีโอกาสได้รับเครื่องแต่งกายใหม่ๆ เสมอ

Gear ทุกชิ้นนั้นก็จะมี Level เป็นของตัวเอง แล้วถ้าอยากจะใส่เนี่ยก็ต้องอัพเลเวลตัวละครเสียก่อน ผ่านการเล่นตัวละครนั้นๆ เยอะๆ เพราะแต่ละตัวละครนั้นจะมีเลเวลเป็นของตัวเอง รวมๆ แล้วนี่ถือเป็นส่วนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเกมได้ดีมากๆ เป็นการเพิ่มคุณค่าในการเล่นเกมต่อสู้ได้สูงที่สุด เป็นระบบที่ทั้งสร้างสรรค์และก้าวหน้าเอามากๆ เลยทีเดียว และยิ่งกว่านั้นที่ต้องชมเลยคือตั้งแต่เล่นมากว่า 50 ชั่วโมง ผู้เขียนยังไม่เจอไอเทม Gear ชิ้นไหนที่รูปร่างหน้าตาซ้ำกับที่เพิ่งได้ก่อนหน้าเลย นี่ถือเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่ต้องชมเปราะจากใจ

Gear ทุกชิ้นนอกจากจะได้มาจากดรอปแล้ว ผู้เล่นยังสามารถหาได้ตามกล่องอีกด้วย ซึ่งจะสุ่ม Gear ได้ตั้งแต่ระบบธรรมดาจนถึงระดับสูง และแม้ตัวเกมจะมีระบบ Microtransaction เติมเงินในเกมซื้อของต่างๆ แต่ไม่ต้องห่วงไปเลย มันจะไม่ได้เพิ่มความได้เปรียบแก่คนเล่นแน่นอน และตั้งแต่นั่งเล่นมา 50 ชั่วโมงก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าต้องเติมเงินแต่อย่างใดเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อีกหนึ่งอย่างของเกมนี้

Multi Connections

แล้วเราจะหา Gear ได้จากที่ไหน จำได้ไหมว่าผมได้กล่าวถึง Multiverse มันคือโหมดเล่นคนเดียวใหม่คล้ายๆ Tower จาก Mortal Kombat โดยเราจะต้องเดินทางไปยังจักรวาลคู่ขนานของโลกเราที่มีอุปสรรคและปัญหาหลายอย่างรอคอยให้เราแก้ ทุกๆ วัน ทุกๆชั่วโมงจะมีความท้าทายใหม่ๆ มารอผู้เล่นอยู่เสมอ ยิ่งยาก ของรางวัลที่ได้ก็ยิ่งสูง

ไม่ต่างอะไรกับการลงดันเจี้ยนหาของเลยแม้แต่นิดเดียว นี่คือส่วนเสริมที่ทำมาเพื่อรองรับระบบ Gear ที่ดีเยี่ยมมากๆ เพราะทุกครั้งที่เราทำภารกิจใน Multiverse สำเร็จ ก็จะได้ Gear ชิ้นใหม่ๆ พร้อมค่าสเตตัสหลากความสามารถ ถือเป็นการยืดอายุของเกมได้อย่างดีเยี่ยมสุดๆ ในแบบที่ไม่เคยมีเกมต่อสู้ไหนสามารถทำได้มาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบเล่น Online เยี่ยงผู้เขียน Multiverse จะทำให้ผู้เล่นทุกคนไม่เบื่อกันไปอีกยาวๆ เลยทีเดียว

ข้อเสีย? คงเป็นที่เรื่องการสุ่มนี่ล่ะ เพราะทุกอย่างที่เราจะได้นั้นสุ่มดรอปและสุ่มตอนเปิดกล่องทั้งหมด ก็เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดดีที่บางครั้งแบบ เราเล่น Batman เป็นตัวหลัก แต่เกมดรอปแต่ Gear จาก Joker ให้เรา อันนี้ก็ไม่ไหว และนั่นแหละคือปัญหาเดียวของระบบ Gear นี้

Multi Communication

เบื่อตบกับ AI ก็ขอต้อนรับเข้าสู่โหมด Online ที่มีแยกให้ตั้งแต่ Ranked Match ที่จะวัดกันที่ฝีมือล้วนๆ ไม่มีของเล่น หรือฝีมือยังไม่แกร่งพอขอใช้ตัวช่วยหน่อยก็จัด Player Match ที่จะมี Gear มาช่วยเหลือก็ทำได้ เรียกว่าเลือกเล่นกันตามสะดวกเลยว่าจะวัดกันที่จังหวะและฝีมือล้วนๆ หรืออยากจะใช้ตัวช่วยเสริมก็ว่ากันไป

แต่ถ้าเบื่อๆ ก็สามารถเข้าร่วม ‘Guild’ อันเป็นระบบที่ให้ผู้เล่นสามารถพบปะกับสมาชิกนักสู้ และร่วมกันตะลุย Multiverse ได้ ความเจ๋งคือเราสามารถเข้าไปช่วยนักสู้ที่กำลังต่อสู้ใน Multiverse ของ Guild ได้ด้วย ฟีเจอร์เด็ดน่าสนุกอารมณ์เหมือน Co-op แบบนี้ไม่ได้สัมผัสจะเสียใจ

โดยรวมแล้วก็ถือว่ายังดีอยู่กับการมาของ ระบบ Guild เป็นอะไรที่ดีงามมากๆ ระบบ Online เองก็เสถียรคงที่ และยังมีผู้เล่นอยู่ไม่ขาดสาย ดังนั้นใครอยากจะซื้อมาเล่นออนไลน์ รับรองเลยล้านเปอร์เซ็นคุณจะไม่ผิดหวังเสียดายเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียวแน่นอนครับ

สรุป

Injustice 2 สอบผ่านทุกบททดสอบสุดหินที่เกมต่อสู้มีปัญหามาตลอดหลายปีตั้งแต่ โหมดเนื้อเรื่องของเกม, กราฟิคที่คมชัดสวยงาม ยันวิธีการยืดอายุของเกมไม่ให้เงียบเป็นป่าช้าในเวลาสองอาทิตย์ ระบบ Multiverse ที่พร้อมท้าทายคนเล่นอยู่ตลอด การผสมผสานระบบ RPG อัพเลเวล และระบบ Gear ที่แบ่งรูปร่างหน้าตาไปตามตัวละครที่มีให้เลือกเล่นมากกว่า 30 ตัว ออกมาเป็นเกมต่อสู้ที่ดูมุมไหนก็คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

GAMEWORLD SCORE : 9/10 ยอดเยี่ยม!

รีวิวเกม By GameWorld 

“The game world is our world.”

Tags: , , , , , , , , , , , , , ,

Advertisement




Advertisement




LIKE US