เกมนี้คู่ควรกับดราม่าจริงๆ กับ Fortnite ที่ครั้งนี้ใหญ่กว่าดราม่าใดๆแน่นอน - GameWorld.in.th

เกมนี้คู่ควรกับดราม่าจริงๆ กับ Fortnite ที่ครั้งนี้ใหญ่กว่าดราม่าใดๆแน่นอน

Become super and save reality in Fortnite Chapter 2 – Season 4 – PlayStation.Blog

อัพเดทแพทช์ไปแล้วกับ Fortnite season 4 ที่ได้จับมือร่วมมือกับทาง Marvel ทำเอาแฟนตื่นเต้นกันสุดๆ แต่เกมนี้เหมือนกับควบคู่กับดราม่าจริงๆ เพราะทาง Apple ได้ถอดเกม Fortnite ออกจากระบบ IOS นั่นเองทำเอาแฟนที่เล่นในระบบ โทรศัพท์มือถือของ IOS นั้นอดเล่นและได้มีการตอบโต้ถกเถียงมาหลายวันแล้วอีกด้วยซึ่ง Apple ได้โต้ตอบทาง Epic Games ในข้อกล่าวหาเรื่องพฤติกรรมการผูกขาดในการควบคุม App Store และชี้แจงต่อศาลว่า ผู้สร้าง Fortnite ละเมิดกฎของทาง Apple และไม่ควรได้กลับมาในร้านค้าชั่วคราว ในขณะที่คดีความยังไม่สิ้นสุด โดยในเอกสารการฟ้องร้อง Apple ได้กล่าวว่า ทาง Epic Games ได้ร้องขอ “การจัดการเป็นพิเศษ” กับทาง Apple ด้วยอีเมล 3 ฉบับจาก Tim Sweeney ซึ่งเป็นประธานบริษัท Epic ในการสนับสนุนข้อกล่าวหาในครั้งนี้

Apple officially kicks Fortnite off the iPhone, iPad, banning Epic's developer account - CNET

ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการโต้ตอบทางกฎหมายกับทาง Epic Games ครั้งแรกของ Apple หลังจากเกิดข้อพิพาทกันระหว่าง 2 บริษัทในศาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่ Epic Games ได้อัปเดต Fortnite เกมเรือธงของตัวเองให้มีระบบการซื้อ V-Bucks โดยตรงในแอป ที่ออกแบบมาเพื่อเลี่ยงระบบการจ่ายเงินของ App Store ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากรายได้ นั่นทำให้ทาง Apple ถอดถอน Fortnite ออกจากร้านค้าของตัวเองในเวลาต่อมา จากการละเมิดนโยบายของพวกเขา ซึ่งผู้ที่เคยลง Fortnite เอาไว้ใน iPhone จะยังสามารถเข้าเกมต่อได้ แต่จะไม่สามารถอัปเดตหรือดาวน์โหลดแอปได้อีกหลังจากนั้น Epic Games ก็ได้เริ่มการฟ้องร้องดำเนินคดีกับทาง Apple ในการพยายามบีบให้พวกเขาเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจ และเริ่มแคมเปญ FreeFortnite เพื่อทำให้ Apple กลายเป็นตัวร้ายในศึกครั้งนี้

Fortnite: Apple ban sparks court action from Epic Games - BBC News

อย่างไรก็ตาม Sweeney เคยได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ว่า ทาง Epic Games ไม่ได้ฟ้องร้อง Apple เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หากแต่เป็นการเรียกร้องเพื่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของทั้งผู้ใช้งานและนักพัฒนาแอปต่างๆวันนี้ Apple กล่าวว่า Epic เรียกร้องขอดีลพิเศษ แต่นั่นไม่เป็นความจริง เราต่อสู้เพื่อให้ได้แพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง และการเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมแก่นักพัฒนาทั้งหมด และมันจะเป็นนรกของการต่อสู้ Sweeney กล่าว แต่ในเอกสารฟ้องร้อง Apple ได้โต้แย้งในประเด็นนั้นว่า

Epic Games เปิดตัวแคมเปญ #FreeFortnite เพื่อต่อต้านการแบน Apple Store

ในวันที่ 30 มิ.ย. คุณ Tim Sweeney ประธาน Epic ได้ส่งอีเมลมายังเพื่อนร่วมงานของผม และตัวผม เพื่อร้องขอ ‘หนังสือขยายความตามสัญญา’ จาก Apple ที่จะทำให้เกิดดีลพิเศษเฉพาะกับ Epic ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีในการนำเสนอแอปของ Epic บนแพลตฟอร์ม iOS ของ Apple”Phil Schiller อดีตรองประธานอาวุโสของ Apple ระบุ Apple กล่าวว่า Sweeney ร้องขอการอนุญาตให้ Epic สามารถเลี่ยงระบบ In-app และอนุญาตให้ผู้เล่น Fortnite สามารถจ่ายเงินในเกมได้โดยตรง รวมถึงขออนุญาตให้สามารถเปิดร้านขายแอปบุคคลที่ 3 (ในที่นี้คือ แอป Epic Games Store) สำหรับ iPhone ด้วย ซึ่ง Schiller กล่าวว่า Sweeney ส่งอีเมลให้แก่เขาเพื่อแจ้งว่า Fortnite ได้เปลี่ยนกลไกการจ่ายเงินภายในแอปแล้ว และกล่าวว่า “เขาจะไม่ยอมทำตามข้อจำกัดของขั้นตอนการจ่ายเงินของ Apple อีกต่อไป

Fortnite bypasses Google Play, Apple App Store fees with direct payments

เพราะข้อจำกัดถูกกำหนดโดย Apple ทำให้ Epic ไม่สามารถส่งมอบฟีเจอร์บางอย่างในแอบบน iOS ของพวกเราได้” Sweeney เขียนในอีเมลฉบับวันที่ 30 มิ.ย. หัวข้อว่า “ทางเลือกของลูกค้าและการแข่งขันที่จะถูกสร้างขึ้นโดย Apple” ซึ่งอีเมลฉบับดังกล่าว ได้ถูกส่งไปยัง Tim Cook ประธานบริษัท Apple คนปัจจุบัน และผู้บริหารคนอื่นๆ ของ Apple ด้วย Apple จะต้องส่งมอบหนังสือขยายความตามสัญญา หรือ สัญญาอื่นๆ และเอกสาร ในการถอดถอนข้อจำกัดดังกล่าว ที่จะทำให้ Epic สามารถมอบการแข่งขันทั้งด้านร้านค้า และตัวเลือกการจ่ายเงิน ให้แก่ลูกค้าของ iOS ได้ เราหวังว่า Apple จะทำให้ตัวเลือกที่เท่าเทียมกันเหล่านี้ให้แก่นักพัฒนา iOS ทุกรายในอีเมลระบุ

Losing Fortnite won't hurt Apple's revenues – but the publicity will sting

ซึ่ง Sweeney ได้ทวีตเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า Apple พยายามทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด พร้อมทั้งนำอีเมลที่ส่งให้ผู้บริหารของ Apple ลงใน Twitter ของตัวเอง ซึ่งในอีเมลมีการระบุข้อเรียกร้องของทาง Epic จำนวน 2 อย่าง คือ 1. การมอบตัวเลือกการจ่ายเงินใน Fortnite และซอฟท์แวร์อื่นๆ ของ Epic Games ที่มากกว่าระบบที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับ Apple และ 2. การขอนำแอป Epic Games Store ใส่เข้ามาใน iOS App Store และสามารถลงแอปนี้บน iPhone และ iPad ได้โดยตรง ที่สามารถเข้าถึงระบบปฏิบัติการและอัปเดตได้อย่างไร้รอยต่อเหมือนอย่างที่ iOS App Store ทำได้

Fortnite' v. Apple: How V-Bucks led to the lawsuit of the decade, in 4 steps

โดยทาง Epic ระบุในอีเมลด้วยว่า ถ้า Epic ได้รับอนุญาตให้ส่งมอบตัวเลือกเหล่านี้ให้แก่ผู้ใช้งาน iOS จะทำให้เหล่าลูกค้าสามารถที่จะจ่ายเงินถูกลงสำหรับผลิตภัณฑ์แบบดิจิทัล และนักพัฒนาจะได้รับเงินมากขึ้นจากยอดขายเหล่านั้น และหวังว่าทาง Apple จะให้ตัวเลือกที่สร้างความเท่าเทียมนี้แก่นักพัฒนา iOS ทุกคน ในการทำให้การขายซอฟท์แวร์บน iOS มีการเปิดกว้างและแข่งขันได้ เหมือนอย่างบน PC ซึ่งรายละเอียดนั้นค่อนข้างเยอะเอามากๆหากใครอยากติดตามข่าวสารสามารถติดตามได้ที่ลิ้งค์นี้ได้เลย ทั้งข้อมูลและการยื่นเอกสารต่างๆ

https://www.cnbc.com/2020/08/21/apple-says-epic-games-ceo-wanted-a-side-deal-for-fortnite.html?fbclid=IwAR1v9Pdz6SDrR1-8NV5hBHTce78b82bDfnBcKt-lJtpe8_2yvvIFktRoxe8

https://www.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.cand.364265/gov.uscourts.cand.364265.36.0_2.pdf?fbclid=IwAR3lJ7QryMTslLnUDX2W5jBS-h7FyQPzK_0XJMQ6-fitLERuGXza4qqvmko

Advertisement




Advertisement




LIKE US