by GM Newsตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา Pokemon Go เกมมือถือที่พัฒนาโดย Niantic Labs และเป็นเกมที่มีผู้คนมากมายอยากเล่นมากที่สุด จากการผจญภัยไล่ล่าหาโปเกม่อนนอกบ้านของเหล่าเกมเมอร์นั้นได้ทำลายวิถีของการเล่นเกมแบบเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง
ทางด้าน John Hanke ผู้ก่อตั้ง Niantic ได้ออกมาเผยถึงเป้าหมายของการสร้างสรรค์รวมไปถึงการดีไซน์ของเกมดังอย่าง Pokemon Go ไว้เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้
-
อยากให้ผู้คนได้ออกไปกำลังกายบ้าง
เนื่องจากเกมในยุคนี้นั้นทำให้ผู้คนต่างติดเทคโนโลยีจนกลายเป็น nerds ที่ต้องการจะอยู่แค่ภายในบ้านตลอดเวลา บางคนก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และดาวน์โหลด Apps สุขภาพและกีฬาเพื่อให้ตัวเองได้ขยับร่างกายบ้าง แต่ไม่นานเค้าก็จะเบื่อและเหนื่อยที่จะทำมัน แต่กับ Pokemon Go นั้นเป็น Apps ที่ต้องการแค่ให้ผู้เล่นได้ขยับ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบไหน นอกจากนั้นมันยังง่ายและสนุกอีกด้วย หลายคนๆ ก็จะมีกำลังใจทำจากการไปจับโเกม่อน ซึ่งจะได้โปเกม่อนมาเป็นรางวัลอีกด้วย
-
สอนให้ผู้คนได้ออกไปเห็นโลกด้วยตาตัวเอง
หลายคนคงจะรู้สึกเบื่อกับสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่เค้าอยู่ทุกวันนี้ แต่กับเกมนี้พวกเขาสามารถค้นพบกับมุมมองใหม่ๆ ของโลกด้วยวิถีทางใหม่ผ่านกล้องมือถือของเกม Pokemon Go อาจจะเปลี่ยนสถามที่เดิมๆ ให้กลายเป็น PokeStop หรือ Gym ที่คุณสามารถปลดปล่อยพลังในตัวคุณแล้วเริ่มต้นต่อสู้ ด้วยวิธีนี้ผู้เล่นเป็นล้านคนจะได้ออกสำรวจเมืองผ่านเลนส์ของ Smartphones นั่นเอง
-
ช่วยให้คนได้มีปฎิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่มาร่วมผจญภัยไปด้วยกัน
ผู้เล่นทั่วโลกจะได้เชื่อมถึงกันผ่านเกมนี้ เค้าจะได้เรียนรู้ประสบการณ์จากคนอื่น, แลกเปลี่ยนโปเกม่อนกัน หรือแม้กระทั่งเข้าครอง Gym ร่วมกัน เกมนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อลดความบาดหมางระหว่างผู้เล่นและเน้นสร้างเพื่อนใหม่ๆ
Pokemon Go เป็นที่นิยมมากขนาดไหน ?
อ้างอิงข้อมูลจาก SimilarWeb เมื่อ วันที่ 8 กรกฎาคม ของผู้ใช้ Android ในสหรัฐนั้นพบว่าต่างใช้เวลาไปกับ Pokemon Go มากกว่า Apps Social Media อื่นๆ
และในตอนนี้ก็ได้มีคู่มือการเล่นต่างๆ ออกมามากมายที่จะเป็นตัวช่วยที่ดีให้กับผู้เล่น รวมไปถึงมีการพบวิธีการโกงในรูปแบบต่างๆ ในเกม Pokemon Go อย่างการเล่นบน Segways, เปลี่ยน Roomba ให้กลายเป็นเครื่องฟักไข่, หรือการจ้าง Pokemon Trainer มืออาชีพก็มี Pokemon Go เป็นดั่งปรากฎการณ์ ถึงขนาดที่ว่า Hillary Clinton ยังงัดมุกตลกเกี่ยวกับเกมนี้มาใช้ในตอนหาเสียงอีกด้วย แรงเฟร่อออออออออ!!!
ทีนี้เราจะมาดูกันว่าเทคโนโลยี AR ที่ใช้ในเกม Pokemon Go นี้กับเทคโนโลยี VR ที่กำลังบูมในตลาดเกมนั้น มันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง!
คำจำกัดความของ VR และ AR
Virtual Reality หรือ virtual realities (VR) หรือที่รู้จักกันก็คือ “ความจริงแบบเสมือน” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการจำลองสภาพแวดล้อมให้ปรากฏเหมือนสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความเป็นจริง หรือเรียกอีกอย่างว่าสภาพแวดล้อมในโลกแห่งจินตนาการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นสภาพแวดล้อมทางด้าน ภาพ และเสียง ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นบนหน้าจอแบบพิเศษที่ทำให้ดูเหมือนจริง นอกจากนี้อาจมีข้อมูลอื่นๆ นำเสนอด้วย เช่น ข้อมูลทางยุทธการ สำหรับระบบการรบจำลอง เป็นต้น โดยระบบ VR ที่ซับซ้อนจะมีอุปกรณ์ที่ออกแบบเฉพาะเพิ่มเติมขึ้นมาเช่น ถุงมือควบคุม (wired glove) หรือ หมวก และแว่นแบบพิเศษ เป็นต้น
ส่วน Augmented Reality (AR) ก็คือ “ความจริงแบบส่วนขยาย” หมายถึงเทคโนโลยีที่มีการเพิ่มข้อมูลที่มีความหมายให้กับสิ่งของหรือสถานที่จริงๆ โดยเริ่มด้วยการเปิดรับข้อมูลอ้างอิงทางด้าน ภาพ เสียง หรือการบอกตำแหน่งด้วยระบบ GPS และอื่นๆ จากที่นั้นๆ แล้วระบบก็จะทำการสร้างฐานข้อมูลเพิ่มเติมให้วัตถุจริงที่มีอยู่เดิมทั้งในรูปแบบของ ภาพ เสียง และข้อมูลอื่นๆ นั้นมีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มขึ้น หรือสามารถตอบโต้ได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์และมีการรับรู้เพิ่มเติมจากสิ่งของหรือสภาพแวดล้อมจริงๆ ที่อยู่ตรงหน้านั่นเอง
ในช่วงปีที่ผ่านมานั้นได้มีข่าวคราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ VR เต็มไปหมด หลายๆ บริษัทก็ได้มีการประกาศถึงแผนการในตลาดอุตสาหกรรม VR และเทคโนโลยี VR นั้นยังคงนำหน้าเทคโนโลยีอย่าง AR ในด้านของการพัฒนาอยู่หลายขุม
สำหรับ VR Headsets รุ่นแรกอย่าง Facebook Oculus Rift และ HTC Vive ที่เปิดวางจำหน่ายไปเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา และ Sony PlayStation VR ก็กำลังจะเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้เช่นเดียวกัน และขณะเดียวกันเกม VR เองก็มีออกมามากให้เล่นกันมากขึ้น เช่น Vanishing Realms (HTC Vive), Defense Grid 2 (Oculus Rift), The Gallery: Call of the Starseed (Vive) และอีกมากมาย อย่างไรก็ตามยอดขายของเกม VR เองก็ยังไม่ได้มากมายอย่างที่นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ ด้วยความที่ไม่ค่อยมีเกมหรือ App ไหนที่จะสามารถขึ้นมาเป็นกระแสหลักได้ และผุ้เล่นส่วนใหญ่ก็ต้องใช้เงินเยอะพอสมควรเพื่อที่จะได้เล่นมัน นี่เปรียบเสมือนเป็นช่องทางให้ Pokemon Go นั้นโดดเด่นออกมาและอาจเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น
ในความคิดของผม VR ก็คือการสร้างความสมจริงให้มันสมบูรณ์แบบมากขึ้น ในขณะที่ AR คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อเติมเต็มความสร้างสรรค์บนรูปแบบดิจิตอลให้กับโลกนี้ ผู้เล่นกว่าล้านคนได้ดาวน์โหลดเกม Pokemon Go ที่เป็นได้มากกว่าการไล่จับเหล่าโปเกม่อนตัวน้อย และเกมนี้ก็อาจจะเป็นการนำไปสู่ยุคใหม่ของการประมวลผลในรูปแบบดิจิตอลก็เป็นได้
Pokemon Go ถืแเป็ฯตัวอย่างถึงการที่โลกดิจตอลกับโลกใบนี้อยู่ร่วมกันผ่านสมาร์ทโฟนในมือ ในขณะที่ VR ต้องการออกจากโลกแห่งความเป็นจริง และเกมที่ใช้ AR เองก็ได้มีออกมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วแต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่ากับ Pokemon Go เหตุผลนั้นอาจจะมาจากความจริงที่ว่าผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับ AR แล้วก็ได้ พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วทำให้เรารู้ว่าการที่เกม Pokemon Go เป็นเกมที่หลายคนรอคอยและประสบความสำเร็จไปอย่างถล่มทลายนั้น ความสำเร็จนี้ไม่ได้ใช้เวลาแค่ข้ามคืนจริงๆ ครับ
ข้อมูลจาก 2P
